10 กิจกรรมที่ห้ามพลาดในซานดิเอโกและพื้นที่โดยรอบ
ซานดิเอโกเป็นที่รู้จักในฐานะ “เมืองที่งดงามที่สุดของอเมริกา” และสมญานามนี้ได้มาด้วยเหตุผลหลายประการ ซานดิเอโกใช้เวลาขับรถ 2 ชั่วโมงจากลอสแอนเจลิส และ 30 นาทีจากพรมแดนเม็กซิโก ที่นี่ คุณจะได้รับประสบการณ์ในสไตล์แคลิฟอร์เนียแบบคลาสสิก ที่มาพร้อมชายหาดและสถานที่พักผ่อนกลางแจ้ง รวมถึงการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมที่หลากหลายและผู้คนที่เป็นมิตรมากกว่า (ตามความเห็นของฉัน)
แม้ว่าการค้นหา “กิจกรรมที่แนะนำในลอสแอนเจลิส” ใน Google จะให้ผลลัพธ์ออกมาหลายสิบหน้า แต่การรู้ว่าควรทำกิจกรรมใดในซานดิเอโกไม่ง่ายขนาดนั้น ในบทความนี้ เราจะมาให้ข้อมูลเชิงลึกแก่คุณเกี่ยวกับกิจกรรม 10 อย่างที่ห้ามพลาดในซานดิเอโกและพื้นที่โดยรอบ
สวนสัตว์ซานดิเอโก (San Diego Zoo) และสวนสาธารณะบัลบัว (Balboa Park)
สวนสัตว์ซานดิเอโกเป็นที่รู้จักกันในฐานะสวนสัตว์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีการจัดแสดงสัตว์ต่างๆ เกือบ 800 สปีชีส์ รวมถึงหมีแพนด้า นักท่องเที่ยวทุกวัยมักใช้เวลาที่นี่ไม่ต่ำกว่าครึ่งวัน และคุณสามารถใช้เวลาที่เหลืออีกครึ่งวันเที่ยวชมสวนสาธารณะบัลบัวซึ่งอยู่ติดกันได้ โดยสวนแห่งนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์มากกว่า 16 แห่ง สวนพฤกษศาสตร์ สนามกอล์ฟ สถานที่จัดแสดงศิลปะ หมู่บ้านศิลปิน และศูนย์วัฒนธรรม สวนสาธารณะบัลบัวแสดงให้เห็นถึงความเป็นซานดิเอโกอย่างแท้จริง และเป็นสถานที่ซึ่งคุณต้องไม่พลาดในระหว่างที่คุณอยู่ในเมืองแห่งนี้
เขตอนุรักษ์ทอรีย์ ไพนส์ (Torrey Pines State Reserve)
สัมผัสกับวิถีชีวิตกลางแจ้งสไตล์แคลิฟอร์เนียตอนใต้ โดยการมุ่งหน้าไปตามเส้นทางเดินป่าอันน่าทึ่งของทอรีย์ ไพนส์เพื่อชมทัศนียภาพสุดตระการตา และสัมผัสประสบการณ์ที่สดชื่นและโดดเด่นไม่เหมือนที่ใด
เกาะโคโรนาโด (Coronado Island)
เกาะโคโรนาโดสามารถเดินทางไปได้โดยข้ามสะพานหรือนั่งเรือข้ามฟาก (หรือว่ายน้ำไป) เท่านั้น ที่นี่ คุณจะได้พบกับทิวทัศน์ขอบฟ้าที่สวยงามที่สุดในซานดิเอโก พื้นที่ครึ่งหนึ่งของเกาะเป็นฐานทัพเรือ และอีกครึ่งหนึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม Hotel Del Coronado หนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศซึ่งได้รับการติดตั้งระบบไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์ หากคุณมาที่นี่ในฤดูหนาว คุณจะมีโอกาสได้เพลิดเพลินกับไอซ์สเก็ตบนลานน้ำแข็งที่รายล้อมไปด้วยต้นปาล์ม และอยู่ห่างจากมหาสมุทรแปซิฟิกเพียงไม่กี่เมตร ซึ่งนับเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยาก
อนุสาวรีย์แห่งชาติกาบรีโย (Cabrillo Monument) และซันเซ็ต คลิฟส์ (Sunset Cliffs)
อนุสาวรีย์แห่งชาติกาบรีโยคือจุดขึ้นฝั่งของ Juan Cabrillo ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นชาวยุโรปคนแรกที่ได้ก้าวเท้าเข้ามายังผืนแผ่นดินซึ่งในปัจจุบันคือรัฐแคลิฟอร์เนีย จุดดังกล่าวมอบทิวทัศน์ของเกาะโคโรนาโด ซานดิเอโก และแม้กระทั่งบางส่วนของประเทศเม็กซิโก ทางตอนเหนือของคาบสมุทร คุณจะได้พบกับซันเซ็ต คลิฟส์ ซึ่งเป็นผาหินที่เปล่งประกายในช่วงตะวันตกดิน ให้คุณเตรียมของมาปิกนิกที่นี่ แล้วชมเหล่านักโต้คลื่นร่อนไปตามผิวน้ำก่อนแสงสุดท้ายจะลับขอบฟ้า
ลา โฮยา โคฟ (La Jolla Cove) และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่สถาบันสมุทรศาสตร์สคริปปส์ (Scripps Aquarium)
ลา โฮยา (“อัญมณี” ในภาษาสเปน) คือที่ตั้งของพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่นี่ คุณสามารถถ่ายภาพเซลฟี่กับสิงโตทะเล (กรุณาปฏิบัติตนด้วยความเคารพและระมัดระวังเสมอ) พายเรือคายัคเหนือป่าเคลป์ (สาหร่ายขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง) และดำน้ำตื้นกับฝูงปลาการิบัลดิ (ปลาชนิดหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย) แต่ถ้าคุณคิดว่าน้ำหนาวเกินไป ให้ลองเปลี่ยนไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่สถาบันสมุทรศาสตร์สคริปปส์ทางตอนเหนือของโคฟ เพื่อใกล้ชิดกับสัตว์ทะเลหลากหลายสปีชีส์ในบรรยากาศที่สบายกว่าโดยที่ไม่ต้องตัวเปียก
ทัวร์โรงเบียร์ของแคว้นทางตอนเหนือ
ซานดิเอโกมีจำนวนโรงเบียร์คราฟท์ที่ได้รับใบอนุญาตมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึง Ballast Point, Stone Brewing, Karl Strauss, Green Flash และ Pizza Port เป็นต้น แม้ว่าโรงเบียร์ส่วนใหญ่เหล่านี้จะมีพื้นที่ขนาดเล็ก และมีห้องชิมผลิตภัณฑ์กระจายอยู่ทั่วเมือง แต่การได้ไปเยี่ยมชมสถานที่ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของเบียร์เหล่านี้ก็นับเป็นประสบการณ์ที่พิเศษ หากคุณอายุเกิน 21 ปี คุณจะสามารถเยี่ยมชมโรงเบียร์เพื่อชิมเบียร์ที่สดใหม่ที่สุด และสนุกสนานไปกับการสำรวจพื้นที่โดยรอบ แล้วอย่าลืมแวะเติมพลังที่ร้านอาหารในโรงเบียร์ด้วย ที่ซานดิเอโก เบียร์ดีๆ มีไว้ดื่มคู่กับอาหารอร่อยๆ เสมอ
เยี่ยมชมย่านใกล้เคียง: ลิตเติ้ล อิตาลี (Little Italy) แกสแลมป์ ควอเตอร์ (Gas Lamp Quarter) และฮิลล์เครสต์ แอนด์ นอร์ธปาร์ค (Hillcrest & North Park)
หนึ่งในข้อดีที่สุดของซานดิเอโก คือ ที่นี่มีย่านใกล้เคียงที่โดดเด่นมากมาย ลิตเติ้ล อิตาลีเป็นที่ตั้งของร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมืองหลายแห่ง และไม่จำกัดอยู่เพียงอาหารอิตาเลียนเท่านั้น ให้คุณเริ่มต้นช่วงเย็นของคุณที่นั่นก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังแกสแลมป์ ควอเตอร์ เพื่อหาอะไรดื่มในช่วงหัวค่ำ หรือคุณสามารถเดินทางไปยังฮิลล์เครสต์ ซึ่งมีอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เลือกหลายประเภท ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ปราศจากความจอแจของชีวิตในเมือง เดินทางไปตามถนน University Avenue ผ่านฮิลล์เครสต์ แล้วคุณจะได้พบกับนอร์ธปาร์ค ซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะกับการจิบเบียร์คราฟท์ที่ผลิตในซานดิเอโก และชมการแสดงดนตรีสดชั้นเยี่ยม
ชมวาฬและท่องเที่ยวไปตามหาดมิชชั่น (Mission Beach)
ในช่วงเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนเมษายน วาฬสีน้ำเงินและสีเทาจะอพยพหนีน้ำทะเลอันเหน็บหนาวในมหาสมุทรแปซิฟิกมายังบาฮากาลิฟอร์เนีย (Baja California) ซึ่งเป็นจุดที่วาฬเหล่านี้ให้กำเนิดลูกวาฬ ทัวร์ชมวาฬเริ่มออกเดินทางจากหลายๆ จุดในซานดิเอโก โดยมีอ่าวมิชชั่น (Mission Bay) เป็นจุดที่ดีที่สุด ที่นี่ยังเหมาะสำหรับกีฬาทางน้ำ เช่น การพายเรือคายัค บอร์ดยืนพาย หรือเจ็ตสกีด้วย แต่ถ้าคุณกำลังมองหาจุดสำหรับผ่อนคลายละก็ ทางตะวันตกของอ่าวจะมีหาดมิชชั่น ซึ่งให้คุณได้เดินเล่นไปตามทางเดินริมทะเลที่ทอดยาวไปตามผืนทราย
ตีฮัวนา (Tijuana)
ตีฮัวนาตั้งอยู่ติดชายแดนฝั่งเม็กซิโก ที่นี่ คุณจะได้ฝึกฝนภาษาสเปนและลิ้มลองอาหารเม็กซิกันแท้ๆ นอกจากนี้ ตีฮัวนายังมีงานฝีมือในท้องถิ่นเก๋ๆ มากมายให้คุณได้เลือกซื้อด้วย หากคุณวางแผนที่จะไปเที่ยวชมเมืองแห่งนี้ คุณต้องอย่าลืมพกหนังสือเดินทางและ/ หรือวีซ่านักเรียนของคุณติดตัวไปด้วย การไปเยี่ยมชมตีฮัวนาเป็นประสบการณ์ที่แสนสนุก แต่อาจใช้เวลาประมาณสองสามชั่วโมงในการเดินทางกลับมายังซานดิเอโก ดังนั้น ให้คุณวางแผนเผื่อเวลาไว้ให้ดี
เตเมคูลา (Temecula)
โรงบ่มไวน์ที่ดีที่สุดของแคลิฟอร์เนียหลายแห่งใช้เวลาเดินทางจากซานดิเอโกเพียง 1 ชั่วโมง เตเมคูลาคือสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไม่ว่าคุณจะเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับหรือท่องเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ ด้วยโรงบ่มไวน์ที่มีถึง 35 แห่ง คุณจะมีโอกาสได้ชิมไวน์จนหนำใจ หากคุณต้องการทำให้ประสบการณ์ในครั้งนี้พิเศษยิ่งขึ้นไปอีก ให้คุณจองทริปบอลลูนชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนมุ่งหน้ากลับไปยังซานดิเอโก