6 จุดหมายปลายทางสุดมหัศจรรย์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่คุณต้องไปเห็นสักครั้งในชีวิต

หลังจากการจำศีลช่วงวันหยุดและช่วงเช้าที่ปกคลุมไปด้วยหิมะได้ผ่านพ้นไป ฤดูใบไม้ผลิก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการออกไปท่องโลกและค้นพบทุกสิ่งทุกอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ ด้วยเทศกาลอันสนุกสนาน ดอกไม้แสนสวย และอาหารตามฤดูกาล ฤดูใบไม้ผลิจึงเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษ ที่อาจเรียกได้ว่าน่ามหัศจรรย์เลยทีเดียว เพื่อไม่ให้คุณพลาดสิ่งดีๆ ในช่วงฤดูที่แสนสดใสนี้ เราจึงได้รวบรวมจุดหมายปลายทางสุดมหัศจรรย์ 6 แห่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่คุณต้องเดินทางไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต มาดูกันเลย!

1. ห้องสมุดฮันทิงตัน (Huntington Library) ที่ซานมาริโน รัฐแคลิฟอร์เนีย

คุณสามารถค้นพบความมหัศจรรย์ได้ในทุกฤดูที่ห้องสมุดฮันทิงตัน แต่ที่นี่จะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยเป็นที่ตั้งของพื้นที่สวนที่ได้รับการดูแล 12 แปลง ซึ่งมีทั้งต้นกระบองเพชร กุหลาบ และสวนสไตล์ญี่ปุ่น พื้นที่ของที่นี่รวมแล้วมีพรรณไม้กว่า 15,000 ชนิด และเป็นสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไม้หลายชนิดเบ่งบาน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 65 ฟาเรนไฮต์ (18.3 องศาเซลเซียส) ซึ่งถือเป็นระดับที่เย็นสบาย ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการหลบหนีจากฤดูหนาวอันยาวนาน โดยใช้เวลาขับรถจากลอสแอนเจลิสหรือซานดิเอโกเพียงสั้นๆ นับเป็นสถานที่อันงดงามสำหรับการหลีกหนีชีวิตที่วุ่นวายในเมืองใหญ่

1. ดอกทิวลิปและพืชพรรณอื่นๆ ที่พอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน

เมื่อคุณนึกถึงภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือในสหรัฐอเมริกา คุณคงนึกภาพวันฝนตกที่มืดครึ้ม แต่แล้ว คุณจะต้องตะลึงเมื่อฤดูดอกทิวลิปบานมาถึง เมื่อเดินทางไปยังตอนใต้ของพอร์ตแลนด์เพียง 31 ไมล์ (50 กิโลเมตร) คุณจะได้พบกับทุ่งดอกทิวลิปสีสดใสที่กว้างใหญ่ถึง 40 เอเคอร์ ซึ่งจะทำให้คุณนึกถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ขึ้นมาทันที คุณจะไม่อยากพลาดเทศกาลดอกทิวลิปที่วูดเบิร์น (Wooden Shoe Tulip Festival) อีกหนึ่งจุดที่สวยงามในฤดูใบไม้ผลิ คือ สวนคริสตัล สปริงส์ (Crystal Springs Rhododendron Gardens) ซึ่งคุณจะได้ชื่นชมความงามของสวนพฤกษชาติที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมีนาคม

1. ฮานามิที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โตเกียวเป็นเมืองอันดับต้นๆ ที่อยู่ในลิสต์ ‘ครั้งหนึ่งในชีวิต’ ของนักเดินทางทั่วโลก ด้วยบรรดาตึกสูงเสียดฟ้า แฟชั่นสุดฮิป สูตรอาหารที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร และเทคโนโลยีอันก้าวไกล โตเกียวจึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความเท่ ห้าแยกชิบูย่าที่โด่งดังคือหนึ่งในจุดยอดนิยมที่เหล่านักเดินทางต้องมาสำรวจ แต่ในช่วง 2 สัปดาห์ในฤดูใบไม้ผลิของทุกปี สายตาทุกคู่จะจับจ้องไปยังต้นไม้ จุดที่ต้องไม่พลาดไปเยี่ยมชมคือแม่น้ำเมกุโระ (Meguro River) หรือสวนอึตสึบูกิยามะ (Utsubukiyama Park) ที่ต้นซากุระได้รับการประดับไฟให้ส่องสว่างในยามค่ำคืน

1. กรุงปารีสในฤดูใบไม้ผลิ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คุณคงเคยได้ยินคำร่ำลือถึงกรุงปารีสในฤดูใบไม้ผลิมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่น่าแปลกใจไม่ใช่หรือ? เพราะปารีสคือหนึ่งในสถานที่ซึ่งเป็นที่รักของผู้คนมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะในช่วงเวลาใดของปี แต่ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมหลังฤดูหนาวที่หม่นหมองนั้น ที่นี่มีบางสิ่งที่น่ามหัศจรรย์เป็นพิเศษ โดยเมืองแห่งนี้ได้กลายมาเป็นแกลเลอรี่ซึ่งเต็มไปด้วยภาพดอกไม้ที่เบ่งบาน ท้องฟ้าสีครามสดใส และชาวปารีสที่กำลังรับประทานอาหารเย็นกลางแจ้ง พิพิธภัณฑ์ทุกแห่งในเมืองพร้อมใจใช้ธีมฤดูใบไม้ผลิที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเฉลิมฉลองการมาเยือนของฤดูนี้ ในขณะที่บรรดาแฟนกีฬาและผู้รักในเสียงดนตรีพากันออกมาชมการแข่งขัน French Open และเทศกาลดนตรีแจ๊ส Saint-Germain

1. เทศกาลดอกซากุระบานที่วอชิงตันดีซี

เมื่อพูดถึงวอชิงตันดีซี คนส่วนใหญ่คงจะนึกถึงชีวิตที่เร่งรีบแบบในซีรีย์ชื่อดังอย่าง House of Cards หรือ Scandal แต่ทุกปีในเดือนมีนาคม เมืองแห่งนี้จะเผยให้เห็นด้านที่อ่อนโยนขึ้น ถนนหนทางจะขนาบไปด้วยดอกไม้สีชมพูแสนสวย เพราะต้นซากุระจะเริ่มเบ่งบาน ต้นไม้เหล่านี้เป็นของขวัญจากนักเคมีชาวญี่ปุ่น Jokichi Takamine ซึ่งมอบให้แก่กรุงวอชิงตันดีซีในนามของกรุงโตเกียวในปี 1912 ผู้คนในท้องถิ่นชื่นชอบต้นซากุระมากถึงขนาดจัดงานเทศกาล 1 เดือนในแต่ละปีเพื่อเฉลิมฉลองดอกซากุระบาน

1. สวนจาร์ดีน มาจอแรล (Jardin Majorelle) ที่เมืองมาราเกช ประเทศโมร็อกโก

เมื่อได้ยินชื่อเมืองมาราเกช คุณคงจะนึกถึงอากาศอันอบอุ่นและผืนทรายสีทอง แต่ที่จริงแล้ว เมืองทะเลทรายแห่งนี้เต็มไปด้วยโอเอซิสที่เขียวชอุ่ม มาราเกชเป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะ 54 แห่ง ซึ่งกลับมามีชีวิตชีวาในฤดูใบไม้ผลิ สวนซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุด คือ สวนจาร์ดีน มาจอแรล ซึ่งได้รับการออกแบบโดยศิลปินชาวฝรั่งเศสซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโลกตะวันออก สวนจาร์ดีน มาจอแรลมีอายุเก่าแก่เกือบ 40 ปี และภายหลังได้รับการบูรณะโดย Yves Saint-Laurent แฟชั่นดีไซน์เนอร์ชื่อดังและ Pierre Bergé นับเป็นสถานที่ที่มีมนต์สะกดอย่างแท้จริง