ไบรตัน..กับความประทับใจที่บรรยายไม่รู้จบ! 😇
ถ้าให้เล่าประสบการณ์หรือพูดอะไรถึง EF หรอ? มีเยอะมาก ทุกอย่างดีและประทับใจมาก ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มติดต่อกับทางโรงเรียน พี่ๆให้คําแนะนําและคําปรึกษาดีมาก จนไปเรียนก็ยังมีถาม feedback และคอยดูแลตลอดจนถึงวันกลับ
เริ่มจากวันแรกที่ไปถึงสนามบิน Heathrow เจ้าหน้าที่ของ EF มารอรับด้านหน้าบริเวณทางออก เป็นอะไรที่พอเห็นเจ้าหน้าที่มารอรับแล้วรู้สึกสบายใจมาก ว่าเค้าดูแลเราดีจริงๆ เจ้าหน้าที่ก็จะติดต่อกับคนขับรถที่จะไปส่งยัง Host Family นับว่าเป็นอะไรที่สะดวกมากๆ
วันแรกที่ไปโรงเรียนก็ยังไม่ได้ทําอะไรมาก ยังไม่ได้เริ่มเรียนด้วย แต่จะเป็นเหมือนการปฐมนิเทศมากกว่า โดยทางโรงเรียนจะมีสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษเพื่อที่จะได้เลือกคลาสเรียนที่เหมาะกับเรา และแนะนําภายในโรงเรียนว่ามีห้องอะไรอยู่ตรงไหนบ้างในช่วงเช้า ส่วนในช่วงบ่ายก็จะมีเจ้าหน้าที่ EF พานักเรียนใหม่ทุกคนเดินชมเมืองไบรตัน เดินสนุกมากวันแรก 😊 วันต่อมาพอได้ตารางเรียนก็เริ่มไปเรียนตามปกติ ซึ่งตารางค่อนข้างยืดหยุ่น มีทั้งคลาสรวมและคลาสเฉพาะที่แบ่งตามคะแนนทดสอบวันแรก อีกอย่างคือ ที่นี่ยังสามารถเลือกเรียนคลาสที่เราสนใจเฉพาะหรืออยากเรียนเสริมได้อีกด้วย และก็มีกิจกรรมให้ร่วมทําเยอะมาก เช่น ปาร์ตี้ต่างๆ, กีฬาประจําสัปดาห์, ท่องเที่ยวต่างเมือง ฯลฯ
บรรยากาศห้องเรียนเป็นกันเองสุดๆ 1 ห้องจะมีกันไม่เกิน 20 คน เพื่อนร่วมชั้นก็น่ารักและมีหลายสัญชาติมาก จูนเรียนรู้หลายภาษามากกว่าภาษาอังกฤษอีก ทั้ง เกาหลี ญี่ปุ่น อิตาลี สเปน ซาอุฯ ฯลฯ ซึ่งจูนเป็นคนไทยคนเดียวในห้อง ส่วนครูผู้สอนก็ยิ่งเป็นกันเองไปอีก อ้อ! เรามีกฎในห้องด้วยนะ คือ ห้ามพูดภาษาตัวเอง ทุกคนต้องพูดภาษาอังกฤษเท่านั้นไม่ว่าจะคุยกับเพื่อนชาติเดียวกัน ไม่งั้นจะมีการทําโทษหลังเลิกเรียน สําหรับจูนคิดว่าสิ่งนี้มันดีเลยนะ เพราะเราจะได้ฝึกภาษากันจริงๆ ปรับสภาพแวดล้อมให้ Real ซึ่งตอบโจทย์สําหรับตัวจูนที่สุด
จูนอยากจะฝากถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่สนใจและอยากไปหาประสบการณ์ต่างแดนที่ได้มากกว่าการฝึกทักษะภาษา และยังไม่รู้จะไปที่ไหน อย่างไร จูนก็ขอแนะนําหนึ่งสถาบันภาษาดีๆ อย่าง EF International Language School นะคะ จากประสบการณ์ทุกอย่างที่จูนได้รับ การดูแล ให้คําแนะนําและสภาพแวดล้อมการเรียนที่ดีที่สนุกสนานมากๆ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสําคัญที่สุดที่จะทําให้มีแรงบันดาลใจในการเรียนและใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ และจูนก็คิดว่าจากนี้เราก็จะได้รับอะไรอีก หลายๆ อย่างที่ดีตามมาด้วยเช่นกัน
**“**Don’t be afraid to fail. Be afraid not to try” อย่าไปกลัวที่จะล้มเหลว จงกลัวที่ไม่ได้ลองพยายาม เช่นเดียวกับการฝึกพูดและฟังภาษาอังกฤษ อย่าไปกลัวว่าจะฟังและพูดไม่รู้เรื่องจนไม่กล้าไปคุย แต่ให้กล้าเผชิญเจอความล้มเหลวบ่อยๆ ไม่งั้นจะไม่มีวันสําเร็จ