10 อันดับเมืองน่าที่น่าไปเรียนต่อในยุโรป

10 อันดับเมืองน่าไปเรียนที่สุดในยุโรป

การเลือกสถานที่เรียนต่อต่างประเทศนั้นเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิต และก็เป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดด้วย การตัดสินใจว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหนเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปีเป็นเรื่องน่ากลัวทีเดียว ไปแล้วจะชอบมั้ย แพงมั้ยนะ มีแมคโดนัลให้ทานหรือเปล่า เพื่อช่วยการตัดสินใจครั้งนี้เราขอเสนอ 10 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับการเรียนต่อในยุโรป

1. London

คงไม่ต้องพูดอะไรมาก ลอนดอนเป็นเมืองที่เป็นที่นิยมลำดับต้นๆสำหรับนักเรียน ไม่ใช่เพียงในยุโรปแต่นักเรียนจากทั่วโลก ไม่น่าแปลกใจเพราะลอนดอนนั้นมีมหาวิทยาลัยนานาสาขาให้เลือกมากมาย แม้แต่สาขาที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีให้เรียนด้วย ตั้งแต่เศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์ในมหาวิทลัยชั้นนำ London School of Economics and Political Science (LSE) ไปจนถึงสาขาในด้านครีเอทีฟอย่าง Goldsmiths University ในส่วนของคุณภาพชีวิตลอนดอนนั้นแน่นอนว่าเป็นเมืองชั้นนำของโลก เต็มไปด้วยแลนด์มาร์คที่สำคัญ ร้านอาหาร สถานที่ช้อปปิ้ง ที่เที่ยวยามราตรี แต่ทั้งนี้ก็พ่วงมาด้วยราคาที่สูงกว่า

1. BRISTOL

บริสโตลมีอะไรพิเศษ อันที่จริงแล้วบริสโตลเป็นเมืองที่บัณฑิตส่วนใหญ่เลือกอยู่หลังจากจบจากศึกษาจากมหาวิทยาลัยสองแห่งของเมืองคือ University of Bristol และ  University of the West of England (UWE) ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนถึงเลือกอยู่ที่นี่ บริสโตลเป็นหนึ่งในเมืองที่เก๋ที่สุดในอังกฤษ ทั้งงานปาร์ตี้และธุรกิจเกี่ยวกับแนวคิดสร้างสรรค์มากมาย แถมยังอยู่ทางตอนใต้ของอังกฤษ หากจากลอนดอนเพียงแค่ 2 ชั่วโมง และอยู่ใกล้ชายหาดที่ดีที่สุดของอังกฤษอีกด้วย

1. OXFORD

หนึ่งในสองมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและทรงเกียรติ์ที่สุดของอังกฤษ (อีกที่หนึ่งคือแคมบริดจ์) ออกซ์ฟอร์ดมีทุกอย่างที่คุณต้องการ บรรยากาศนอกเมืองสวยๆ ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศอังกฤษ มีบรรยากาศของการเรียนการสอนอันน่าตื่นเต้น ตัวเมืองมีประวัติศาสตร์ทางด้านการศึกษาขนาดที่เรียกว่าจบแล้วไม่ได้เพียงแค่กระดาษแผ่นเดียวแน่นอน จริงอยู่ว่า  University of Oxford นั้นเข้าไปเรียนยาก คุณจะต้องเป็นระดับตัวท้อปของตัวท้อปอีกทีจึงจะผ่านการคัดเลือก แต่ไม่เป็นไร คุณสามารถไปใช้ประสบการณ์ชีวิตแบบออกซ์ฟอร์ดจากมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับไม่แพ้กันอย่าง Oxford Brookes University

1. EDINBURGH

สก็อตแลนด์และอังกฤษนั้นแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะสำหรับชีวิตนักเรียนนักศึกษา ในอังกฤษนั้นยังมีชายหาดกับฟ้าใสๆและเมืองใหญ่ๆ แต่สก็อตแลนด์นั้นมีบุคลิกแบบเซอร์ๆของตัวเอง เอดินบรานั้นเป็นที่รู้จักดีในเรื่องวัตนธรรมการใช้ชีวิตของนักเรียนนักศึกษา เป็นเมืองที่ให้ประสบการณ์แบบเบาๆใสๆ ยังมีข้อดีที่ได้จากเมืองใหญ่ แต่ไม่วุ่นวายจนเกินไปเหมือนลอนดอน

1. DUBLIN

เราอาจเคยได้ยินว่าคนไอริชนั้นปาร์ตี้ได้สุดขั้วโต้รุ่ง หากมาที่เมืองหลวงของไอแลนด์อย่างดับลินนี้จะเห็นได้เลยว่าจริง ดับลินเป็นเมืองเล็กๆแต่มาแรง มีบรรยากาศดีให้นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ  Trinity College ได้สังสรรค์กันอย่างคึกคัก และเมื่อเรียนจบแล้วก็ยังสามารถสมัครเข้าทำงานที่บริษัทนานาชาติมากมายที่มีสำนักงานใหญ่ประจำทวีปยุโรปอยู่ที่เมืองนี้ ปัจจุบันบริษัทที่ตั้งอยู่ที่นี่ก็อย่างเช่น กูเกิ้ล เฟซบุ้ค อูเบอร์ และแอร์บีเอ็นบี

1. BARCELONA

เมืองหลวงแห่งความแนวของสเปนนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความอินเตอร์มากที่สุดในยุโรป เมืองนี้รวมสถานที่ปาร์ตี้ระดับตำนานและทำเนียมการทานทาปาสที่เลิศไม่แพ้กัน ที่บาร์เซโลน่านี้คุณสามารถเข้าเรียนที่ University of Barcelona และ Polytechnic University of Catalonia ทั้งสองแห่งมีหลักสูตรภาษาอังกฤษถ้ายังไม่ได้เรียนภาษาสเปนมาก่อน แน่นอนว่าไปเรียนภาษาสเปนที่นี่ก็ได้เช่นกัน

1. PARIS

ถ้าจะไปเรียนที่ฝรั่งเศสจะมีเมืองไหนที่ดีไปกว่าเมืองแห่งความรักอย่างปารีส มาเดินตามรอยของนักเขียนระดับตำนานอย่างออนอเร เดอ บาลซัก และซีมอน เดอ โบวัวร์ ที่มหาวิทยาลัยที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก Sorbonne University เลือกซื้อหนังสือมือสองมากมายได้ที่ Latin Quarter หรือนั่งจิบกาแฟระหว่างช่วงพักที่ place de l’Odéon ไม่ว่าคุณจะอยากเรียนแฟชั่น ประวัติศาสตร์ ธุรกิจ หรือการสร้างภาพยนตร์ ปารีสจะมอบแรงบันดาลใจที่ไม่มีที่สิ้นสุดให้กับคุณ ให้คุณได้มีไลฟ์สไตล์ในเมืองแบบที่ไม่มีในฝั่งอเมริกา การเรียนต่อในปารีสนั้นหมายถึงการมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และอนุสาวรีย์ต่างๆอยู่แค่เอื้อม แถมยังได้เรียนภาษาฝรั่งเศสอีกด้วย Pas mal, non?

1. LYON

บ้านของสถานศึกษาชั้นนำอย่าง EM Lyon, INSA และ Université Claude Bernard Lyon 1 ลียอนเป็นเมืองหลวงแห่งอาหารของฝรั่งเศส และเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักศึกษาในโครงการแลกเปลี่ยน Erasmus จากทั่วยุโรป ห่างจากเทือกเขาแอลป์ของฝรั่งเศสเพียง 2 ชั่วโมง และ 2 ชั่วโมงครึ่งจากชายหาด มหานครนี้มีให้คุณได้เลือกทั้งหิมะและการโต้คลื่น ลียอนมีบริการพิเศษสำหรับนักศึกษาจากต่างประเทศ เช่น บริการข้อมูลข่าวสาร บริการช่วยหาที่พัก หรือช่วยหางานพิเศษสำหรับบัณฑิตจบใหม่ ลียอนจึงเป็นเมืองที่เหมาะกับนักเรียนจากต่างแดน

1. BERLIN

ถ้าอยากเรียนแบบ(เกือบ)ฟรีในเมืองที่ฮิปที่สุดในยุโรป เบอลินนั้นก็ใช่เลยสำหรับคุณ พร้อมด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ เมืองหลวงของประเทศเยอรมันนีจะทำให้คุณหลงใหลในมนต์สเน่ห์อันเรียบง่าย สถานที่เที่ยวยามราตรี และพื้นที่สีเขียวแบบไม่จำกัด ลองสมัครไปที่ TU Berlin (มหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเบอลิน) หรือ Humboldt-Universität มหาวิทยาลัยที่มีเกียรติที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปในสาขามนุษยศาสตร์ ลองท้าทายกับภาษาแห่งเกอเธ่ดูสักตั้ง

1. ROME

ถ้าคุณเป็นเด็กแนวสายอาร์ตหรือสายประวัติศาสตร์แล้วล่ะก็ ไม่มีที่ไหนในยุโรปน่าเรียนไปกว่าโรมอีกแล้ว หรือที่รู้จักกันในนาม นครอมตะ โรมมีพิพิธภัณฑ์แบบเปิดที่จะทำให้คุณหลงใหลก่อนคุณจะรู้ตัวเสียอีก โรมนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรม และยังเป็นเมืองหลวงที่คับคั่งไปด้วยคนจากทั่วยุโรป เต็มไปด้วยโอกาสดีๆในชีวิตสำหรับทั้งนักศึกษาและบัณฑิตจบใหม่ ทั้งสมาคมนักเรียน งานวิจัยทางวิชาการ โอกาสทางธุรกิจ การประชุมนานาชาติ มาลองสัมผัสจิตวิญญาณอันน่าทึ่งในนครอมตะและเต็มเต็มชีวิตกับความเป็นอิตาลี