สิ่งที่ครูของคุณอยากบอกให้คุณรู้เกี่ยวกับการเรียนภาษา📚
ณ จุดหนึ่ง ผู้เรียนภาษาส่วนใหญ่ต้องพบเจอกับอุปสรรคกันทั้งสิ้น ความก้าวหน้าของคุณอาจไม่เร็วเท่าที่คุณต้องการ หรือคุณอาจกำลังดิ้นรนเพื่อก้าวไปยังขั้นถัดไป และสงสัยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ในบทความนี้ เรามีไอเดียบางอย่างที่จะช่วยบอกคุณได้ว่าทำไม และครูของคุณเองก็น่าจะรู้เช่นกัน เราไม่อยากเป็นคนบอกเรื่องนี้กับคุณหรอก แต่นี่อาจจะถึงเวลาแล้วที่คุณจะส่องกระจกแล้วเปลี่ยนแปลงตัวเองสักเรื่องสองเรื่อง
ต่อไปนี้คือสิ่งที่ครูของคุณอยากบอกให้คุณรู้เกี่ยวกับการเรียนภาษา และสิ่งที่พวกเขาหวังว่าคุณจะทำเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง (นำวิธีแก้ไขที่เราแนะนำไปใช้ แล้วคุณจะก้าวหน้าได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน)
เพื่อนร่วมชั้นอาจเป็นศัตรูของคุณ
ชั้นเรียนภาษาต่างประเทศทั่วๆ ไปจะประกอบไปด้วยนักเรียนจากทั่วโลก ในตอนแรก ทุกคน (โอเค อาจจะยกเว้นนักเรียนที่มั่นใจสุดๆ คนนั้น) จะมองไปรอบๆ อย่างกังวล และพยายามสแกนเพื่อนร่วมชั้นเพื่อหาคนที่ตัวเองจะไปนั่งด้วย หลายคนโดนแจ็คพ็อต คือ เจอนักเรียนที่พูดภาษาแม่ภาษาเดียวกันพอดี คนที่คุณสามารถพูดคุยและทำงานคู่ด้วยกันได้ คนที่เข้าใจคุณ…เยี่ยมเลยใช่ไหม? ไม่เลย! เพราะในห้องเรียนนั้น เพื่อนใหม่เปรียบเสมือนศัตรูของคุณมากกว่า เราหมายถึงศัตรูที่ขัดขวางการเรียนรู้ หากคุณนั่งกับเพื่อนเหล่านั้นจนเป็นนิสัย คุณจะก้าวหน้าได้ช้าลง เพราะสิ่งล่อใจซึ่งก็คือการอยากพูดภาษาแม่กับเพื่อนๆ จะแข็งแกร่งมากจนคุณต้านทานไม่ไหว และในที่สุดคุณก็จะหยุดท้าทายตัวเองในห้องเรียน สรุปสั้นๆ คือ คุณทำลายการฝึกฟังและพูดของคุณเอง
วิธีแก้ไข**:** หากคุณมีเพื่อนที่พูดภาษาแม่ภาษาเดียวกันในห้องเรียน ให้ทักทายพวกเขาก่อนเริ่มบทเรียน จากนั้นให้แยกย้ายกันไปจนกว่าจะเรียนเสร็จ ในระหว่างเรียน ให้คุณท้าทายตนเองด้วยการเปลี่ยนคู่นั่งไปเรื่อยๆ ในแต่ละครั้ง หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่นั่งข้างเพื่อนที่พูดภาษาเดียวกับคุณก่อน การโต้ตอบกับนักเรียนหลายๆ คนที่มีความสามารถและภาษาแม่ที่แตกต่างกันไปจะเป็นการท้าทายให้คุณสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และช่วยให้คุณเรียนรู้ได้เร็วขึ้น
การบ้านมีประโยชน์จริงๆ
“…และนั่นก็คือการบ้านสำหรับคลาสต่อไป” ครูของคุณจบบทเรียนด้วยประโยคนี้ “เยี่ยมเลย” คุณคิดในขณะจดลงในสมุด คุณมีความตั้งใจที่ดี…แต่เมื่อคลาสต่อไปมาถึง คุณยังไม่ได้เปิดสมุดดูเลยด้วยซ้ำ การบ้าน? การบ้านอะไร? “อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก” แต่เชื่อหรือไม่ว่า ครูของคุณไม่ได้ให้การบ้านเพราะพวกเขาชอบฟังเสียงสั่งงานของตัวเองหรอก แต่เพื่อช่วยให้คุณเรียนรู้ได้ดีขึ้นโดยการรวบรวมเนื้อหาไว้ในใจของคุณก่อนเข้าคลาสต่อไป การเรียนภาษาต่างประเทศก็เหมือนกับการเรียนรู้สิ่งอื่นๆ ที่ต้องอาศัยเวลาและความมานะพยายาม การเข้าเรียนสัปดาห์ละสองครั้งโดยไม่ทบทวนความรู้ในระหว่างนั้นจะทำให้คุณก้าวหน้าได้ช้าลง
วิธีแก้ไข**:** ทำการบ้านของคุณ_ทันที_ที่คลาสเรียนจบลง เพื่อฝึกเรื่องนี้ให้เป็นนิสัย ให้คุณมอบขนมเป็นรางวัลให้กับตัวเองโดยการทำการบ้านในร้านกาแฟร้านโปรดหลังเลิกคลาสเสมอ หรือทำการบ้านในขณะที่คุณขดอยู่บนโซฟาอย่างสบายและจิบเครื่องดื่มร้อนๆ ไปพลางๆ และเพื่อให้ได้คะแนนพิเศษ คุณต้องเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างจริงจังและทำงานที่คุณกำหนดขึ้นเองให้เสร็จในระหว่างรอเข้าคลาสต่อไป เช่น ดูหนังแล้วค้นหาความหมายของคำใหม่ๆ ที่คุณได้ยิน เรียนรู้เนื้อเพลง หรือเปลี่ยนภาษาบนแอปโทรศัพท์มือถือของคุณแล้วเรียนรู้วิธีสำรวจแอปต่างๆ
เป้าหมายไม่ได้มีไว้เพื่อการแข่งกีฬาเท่านั้น
เพื่อนๆ คะ การเรียนภาษาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา คุณอาจจะยังไม่เห็นความก้าวหน้าในระหว่างที่คุณกำลังเรียนรู้ และบางครั้งคุณจะรู้สึกเครียดและหงุดหงิด บรรดาครูทั้งหลายพบเห็นสิ่งเหล่านี้ตลอดเวลา แต่พวกเขาก็พบด้วยว่า นักเรียนที่มีเป้าหมายชัดเจนในใจมีแนวโน้มที่จะทำได้ดีกว่า เป้าหมายที่ดีที่สุดมักจะมีความเฉพาะเจาะจง ท้าทายนิดๆ และมีกำหนดเวลาที่ชัดเจน สิ่งเหล่านี้ได้ผลดีเพราะจะช่วยดึงความสนใจของคุณไปยังจุดที่คุณมุ่งเน้นอยู่ในปัจจุบัน และช่วยชี้ให้เห็นความก้าวหน้าของคุณ
วิธีแก้ไข**:** ระบุเป้าหมายของคุณให้ชัดเจนด้วยภาษาเชิงบวก (เช่น ภายในเดือนตุลานี้ ฉันจะสามารถคุยกับคุณแม่ของแฟนเป็นภาษาเยอรมันได้) และขั้นตอน 2-3 ขั้นที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมาย (ฉันต้องเรียนรู้วิธีพูดคุยเกี่ยวกับครอบครัวและงานของฉัน รวมถึงสิ่งที่ฉันชอบและไม่ชอบ) จดเป้าหมายของคุณลงไป แล้วคอยตรวจสอบความก้าวหน้าของคุณเป็นประจำ บางคนพบว่าการบอกเป้าหมายของตนเองให้เพื่อนรู้ก็ช่วยได้เช่นกัน พวกเขาจะได้มีความรับผิดชอบต่อเป้าหมายเหล่านั้น
ความเพียรพยายามเป็นสิ่งจำเป็นต่อความสำเร็จของคุณ
หนึ่งในบรรดาสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับครู คือ การได้เห็นนักเรียนไม่จริงจังกับการเรียน ที่จริงแล้ว นักเรียนที่มาสาย หยิบมือถือออกมาเล่น ทำการบ้านไม่เสร็จ และนั่งติดกับเพื่อนสนิทของตัวเองนั้นกำลังทำให้ตัวเองเสียเวลาและเงินไปเปล่าๆ เนื่องจากโลกนี้ไม่มียาเม็ดที่กินแล้วพูดได้หลายภาษา พวกเราที่ไม่ได้ถูกเลี้ยงมาแบบสองภาษาจึงต้อง_ใช้ความพยายาม_ในการเรียนภาษา ฉะนั้น อย่าเป็นเหมือนนักเรียนพวกนั้น! จงนั่งตัวตรงแล้วพยายามตั้งใจเรียน
วิธีแก้ไข**:** การเรียนภาษาต้องอาศัยความพยายามอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานเช่นเดียวกับการวิ่งระยะไกล ไม่ใช่การวิ่งแข่งระยะใกล้! ดังนั้น แทนที่จะอัดเนื้อหาก่อนเข้าคลาสสองชั่วโมง ให้คุณแบ่งเวลาทบทวนบทเรียนอย่างตั้งใจ 20-30 นาทีในทุกๆ วัน ให้คุณทำการบ้าน ใช้แฟลชการ์ด อ่าน หรือใช้ทิปในการเรียนต่างๆ เหล่านี้ ทิปพิเศษ: เพื่อปรับตัวเข้าสู่โหมดตั้งใจเรียนก่อนเข้าคลาส จงไปถึงห้องเรียนให้ตรงเวลา แล้วใช้เวลา 2-3 นาทีในการสงบจิตใจและทบทวนสิ่งที่คุณจดไว้ก่อนเริ่มบทเรียน
คุณทำได้จริงๆ นะ
หากคุณรู้สึกว่าคุณไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการเรียนภาษาใหม่ของคุณได้ ก็ยังมีสิ่งสุดท้ายที่ครูของคุณอยากบอกให้คุณรู้ นั่นก็คือ “คุณทำได้” (เชื่อสิ ฉันรู้ดี ฉันเคยเป็นครูมาก่อน!) การเรียนภาษาต้องอาศัยการกำหนดเป้าหมาย การวางแผน และความสม่ำเสมอ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่ากับความพยายามของคุณอย่างแน่นอน