เมื่อเราเอาคำนามต่าง ๆ มารวมกันก็จะได้คำนามประสม ซึ่งเป็นสิ่งที่พบได้เสมอและมีคำประสมใหม่ ๆ เกิดขึ้นเกือบทุกวัน โดยทั่วไปแล้วคำนามประสมจะประกอบด้วย 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือ ส่วนที่บอกเราให้ทราบว่า เป็นใคร หรือเป็นสิ่งใด หรือมีวัตถุประสงค์อะไร ส่วนที่ 2 คือ ส่วนที่ระบุถึงสิ่งของหรือผู้คน คำนามประสมส่วนใหญ่มีความหมายแตกต่างจากคำนามเดิม หรือมีความหมายที่เจาะจงมากขึ้นมากกว่าเมื่อแยกคำนามเหล่านั้นออกจากกัน
ส่วนที่ 1: ประเภทหรือวัตถุประสงค์ | ส่วนที่ 2: อะไรหรือใคร | คำนามประสม |
---|---|---|
police | man | policeman |
boy | friend | boyfriend |
fish | tank | water tank |
dining | table | dining-table |
คุณคงจะได้สังเกตแล้วว่า คำนามประสมสามารถเขียนได้หลายรูปแบบ ได้แก่ การเขียนติดกันเป็นคำเดียวกัน การใช้ hyphen (-) คั่นระหว่างคำนาม 2 คำนั้น และการเขียนแยกกันเป็น 2 คำ ซึ่งการที่จะเขียนแบบใดนั้นก็ไม่ได้มีกฏระบุไว้อย่างชัดเจนนัก ที่พบบ่อยที่สุด คือ การเขียนติดกันเป็นคำเดียวกันและการเขียนแยกกันเป็น 2 คำ
องค์ประกอบของคำนามประสมเกิดจากการนำคำประเภทต่าง ๆ มารวมกัน
องค์ประกอบของคำนามประสม | ตัวอย่างเช่น |
---|---|
คำนาม + คำนาม |
bedroom water tank motorcycle printer cartridge |
คำนาม + คำกริยา |
rainfall haircut train-spotting |
คำนาม + คำกริยาวิเศษณ์ |
hanger-on passer-by |
คำกริยา + คำนาม |
washing machine driving licence swimming pool |
คำกริยา + คำกริยาวิเศษณ์ |
lookout take-off drawback |
คำกริยาวิเศษณ์ + คำนาม |
onlooker bystander |
คำคุณศัพท์ + คำกริยา |
dry-cleaning public speaking |
คำคุณศัพท์ + คำนาม |
greenhouse software redhead |
คำกริยาวิเศษณ์ + คำกริยา |
output overthrow upturn input |
การออกเสียง
การเน้นเสียง คือ สิ่งสำคัญในการออกเสียง เพราะจะช่วยให้เราสามารถแยกแยะได้ว่าคำใดคือคำนามประสม และคำใดคือคำนามที่ถูกขยายด้วยคำคุณศัพท์ สำหรับคำนามประสม โดยทั่วไปแล้วจะเน้นที่พยางค์แรก
ตัวอย่างเช่น
- a 'greenhouse = place where we grow plants (คำนามประสม)
- a green 'house = house painted green (คำคุณศัพท์และคำนาม)
- a 'bluebird = type of bird (คำนามประสม)
- a blue 'bird = any bird with blue feathers (คำคุณศัพท์และคำนาม)