รูปแบบ
ทั้ง 2 ประโยคในประโยคเงื่อนไขแบบ 0 จะใช้ simple present tense
If clause (สาเหตุ/เงื่อนไข) | Main clause (ผลที่เกิดขึ้น) |
---|---|
If + simple present | simple present |
If this thing happens | that thing happens. |
ในประโยคเงื่อนไขทุกแบบ ไม่มีการวางลำดับของประโยคที่แน่นอน หากคุณต้องการเปลี่ยนการเรียงลำดับของ if clause และ main clause คุณเพียงแค่ต้องเปลี่ยนคำสรรพนามและใส่เครื่องหมายวรรคตอนให้ถูกต้องเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะจัดเรียงลำดับอย่างไร ความหมายของประโยคก็ไม่เปลี่ยนแปลง ในประโยคเงื่อนไขแบบนี้สามารถใช้ "when" แทนคำว่า "if" ได้โดยที่ความหมายไม่เปลี่ยน เพราะทั้ง 2 ประโยคบอกให้ทราบถึงข้อเท็จจริงทั่วไป โดยที่ความหมายไม่เปลี่ยน
ตัวอย่างเช่น
- If you heat ice, it melts.
- Ice melts if you heat it.
- When you heat ice, it melts.
- Ice melts when you heat it.
- If it rains, the grass gets wet.
- The grass gets wet if it rains.
- When it rains, the grass gets wet.
- The grass gets wet when it rains.
หน้าที่
ประโยคเงื่อนไขแบบ 0 ถูกนำมาใช้เมื่อต้องการอธิบายเกี่ยวกับโลกแห่งความเป็นจริง และโดยทั่วไปแล้วจะถูกนำมาอธิบายความจริงทั่วไป เช่น ความจริงทางวิทยาศาสสตร์ เป็นต้น ประโยคเงื่อนไขแบบนี้บอกให้ทราบถึงสิ่งที่เป็นจริงและเป็นไปได้เสมอหรืออย่างน้อยที่สุดก็ในขณะที่พูด
ตัวอย่างเช่น
- If you freeze water, it becomes a solid.
- Plants die if they don't get enough water.
- If my husband has a cold, I usually catch it.
- If public transport is efficient, people stop using their cars.
- If you mix red and blue, you get purple.
นอกจากนี้ ประโยคเงื่อนไขแบบ 0 ยังถูกนำมาใช้เมื่อต้องการบอกให้ทำอะไรอีกด้วย โดยใน main clause จะเป็นคำสั่ง
ตัวอย่างเช่น
- If Bill phones, tell him to meet me at the cinema.
- Ask Pete if you're not sure what to do.
- If you want to come, call me before 5:00.
- Meet me here if we get separated.